B GREEN: Good Environment

ในปี 2566 บริษัทฯ มีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 4,572 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ โดยผู้ทวนสอบ คือ บริษัท บูโร เวอริทัส เซอทิฟิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด

สนับสนุนการใช้พลังงานทางเลือกในโครงการบ้าน

1. ติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป ในคลับเฮ้าส์ของโครงการ จำนวน 8 โครงการ ได้แก่ โครงการบริทาเนีย อยุธยา / โครงการบริทาเนียประชาอุทิศ90 / โครงการบริทาเนีย วงแหวน-เทพารักษ์ / โครงการบริทาเนีย บางนา-เทพารักษ์ / โครงการแกรนด์บริทาเนีย ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ / โครงการบริทาเนีย บางนา-บางปะกง (มังกรบูรพา) / โครงการบริทาเนีย ราชพฤกษ์ กาญจนาภิเษก / โครงการบริทาเนีย ราชพฤกษ์ 345 สามารถประหยัดไฟได้ 39.495 MWH (ในบางโครงการอยู่ในขั้นตอนการติดตั้ง) คิดเป็นลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ 19.182 Tco₂ เทียบเท่าการดูดซับของต้นไม้ 767 ต้น (ต้นไม้สามารถดูดซับได้ 25 kCo₂) และ ติดตั้งแผงโซลาร์ รูฟท็อป ให้กับบ้านที่มีความสนใจ รวม 101 หลัง
2. ติดตั้งจุดเชื่อมต่อ EV Charger ในบ้านทุกหลังของทุกโครงการ รวมกว่า 16 โครงการ
3. นำร่องใช้รถกอล์ฟจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อลดการใช้ไฟฟ้า นำร่อง ณ บริทาเนีย เทพารักษ์ – ศรีนครินทร์ อีกก้าวของการใส่ใจสิ่งแวดล้อมของบริทาเนีย โดยนำร่องใช้รถกอล์ฟที่ติดแผงโซลารูฟ รับ-ส่งลูกค้า ภายในโครงการบ้านบริทาเนีย เทพารักษ์ – ศรีนครินทร์ และเพิ่มเติมในโครงการบริทาเนีย อยุธยา โดยรถกอล์ฟ 1 คัน ลดการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 600-1800 วัตต์ ทำให้ช่วยโลกได้โดยใน 1 ปี สามารถลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในการอากาศได้ถึง 328.50 TonCO₂e ต่อปี

สัดส่วนของการใช้พลังงานทางเลือกในโครงการบ้านบริทาเนีย

ทำให้ลดการใช้ไฟฟ้าคิดเป็นเงินเท่ากับ 202,266.69 บาท

การออกแบบบ้านคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม

บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นบริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการส่งมอบผลิตภัณฑ์บ้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสำคัญตั้งแต่กระบวนการออกแบบ การก่อสร้าง จนถึงการใช้ชีวิตในบ้านของบริทาเนีย เพื่อส่งต่อความรู้สึกของความภูมิใจ ในการเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยรักษาโลก จากการเลือกซื้อบ้านบริทาเนีย ที่คำนึงถึงการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ซึ่งส่งผลดีต่อทั้งตัวเอง ครอบครัวและสังคมรอบช้าง และการรักษาสิ่งแวดล้อมยังช่วยในเรื่องการประหยัดการใช้พลังงาน ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายของลูกบ้านที่จะลดลงด้วย

บ้าน B GREEN

• การออกแบบอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

  ในขั้นตอนการออกแบบให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมที่อาคารจะสร้างอาจส่งผลกระทบต่อชุมชนข้างเคียงและสังคม รวมถึงในขั้นตอนการก่อสร้างอาคารหรือที่อยู่อาศัย และช่วงดำเนินการนั้น เกิดจากความใส่ใจและตั้งใจ ตั้งแต่เริ่มการออกแบบโครงการ โดยการศึกษาผลกระทบในด้านต่าง ๆ

• การออกแบบเพื่อลดมลพิษทางอากาศ (Air Pollution Management)

  การออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวตามจุดต่างๆของบ้าน และเลือกชนิดพันธ์ที่มีคุณสมบัติช่วยกรองฝุ่นในอากาศ ช่วยเพื่อความชุ่มชื้นกับบริเวณโดยรอบ และช่วยให้ทัศนียภาพสวยงาม

• การออกแบบเพื่อลดเศษวัสดุเหลือใช้ (Waste Management)

  การออกแบบโดยการใช้ขนาดของวัสดุมาตรฐานที่มีในท้องตลาด เช่น การกำหนดขนาดของประตู -หน้าต่างกระจก พิจารณาจากการผลิตกระจกขนาดมาตรฐาน (หน่วยเป็นฟุต) เพื่อลดการตัดเศษกระจกทิ้ง การออกแบบห้องน้ำ โดยกำหนดขนาดมิติความกว้าง ยาว ความสูง ของห้องน้ำ ให้ลงตัวกับขนาดของกระเบื้องมาตรฐาน ออกแบบด้วยระบบ Modular ลดการตัดเศษวัสดุเหลือทิ้ง เป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เพื่อการส่งมอบผลิตภัณฑ์บ้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ จึงตระหนักถึงความสำคัญตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุในการก่อสร้างบ้าน โดยบริษัทฯ สนับสนุนให้มีการเลือกใช้วัสดุหรืออุปกรณ์ในการก่อสร้างที่มาจากแหล่งผลิตที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มาจากพื้นที่ที่มีประเด็นด้านความหลากหลายทางชีวภาพ และลดการก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก และเลือกวัสดุที่ได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

มูลค่าการจัดซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 343 ล้านบาท คิดเป็น 15.63% ของมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด 4,657 ล้านบาท

ตัวอย่างวัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

• วัสดุ Precast จากโรงงานที่ได้มาตรฐานในการจัดการสิ่งแวดล้อม Green Factory ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอร์ไดออกไซด์ และมีการจัดการทำ Zero West
• สีทาผนัง Semi-Gross ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สีคุณภาพ ทนทาน ได้รับฉลาก Carbon Footprint ช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมและโลก สามารถสะท้อนรังสียูวี ช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้าน ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและเน้นการประหยัดพลังงาน และยังมีคุณสมบัติไม่มีกลิ่นฉุน ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัย
• เครื่องปรับอากาศ ประหยัดไฟ เบอร์ 5 และมีแผ่นฟิลเตอร์เพื่อคุณภาพอากาศที่ดี รองได้ทั้งฝุ่น PM2.5 และช่วยยับยั้งเชื้อโรค ลดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์จากเชื้อราและแบคทีเรีย และใช้น้ำยาแอร์ R32 คือ สารทำความเย็นเจเนอเรชันใหม่ที่ผลิตขึ้นเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และเพื่อลดการปล่อยสาร CFC ที่ทำลายชั้นบรรยากาศ
• วัสดุปูพื้นจากโรงงานที่ได้มาตรฐานในการจัดการสิ่งแวดล้อม ลามิเนต ลดการปล่อยสาร ฟอร์มาดีไฮ

ความหลากหลายทางชีวภาพกับการเพิ่มพื้นที่สีเขียว

บริษัทฯ ตระหนักดีว่าการประกอบกิจการของบริษัทฯ โดยเฉพาะการพัฒนาที่ดิน อาจก่อให้เกิดผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ บริษัทฯ จึงมุ่งดำเนินกิจการโดยพิจารณาผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพและการบริการทางระบบนิเวศในกระบวนการตัดสินใจทางธุรกิจ พร้อมทั้งมุ่งเน้นการสร้างผลกระทบเชิงบวกในพื้นที่ที่บริษัทฯ เข้าไปดำเนินงาน เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในชุมชน ตลอดจนสร้างความตระหนักในคุณค่าของการรักษาระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่ร่วมกันกับชุมชนและสังคม โดยได้ดำเนินการตามนโยบายสิ่งแวดล้อม และได้ออกหลักปฏิบัติการก่อสร้างสีเขียวขึ้น เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน

บริษัทฯ ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของการมีต้นไม้ใหญ่ในโครงการ เพื่อสิ่งแวดล้อมและการสร้างภูมิทัศน์ที่ดี นอกจากทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ยังช่วยลดความร้อน ลดผลกระทบของมลพิษทางอากาศได้โดยพันธุ์ไม้ที่เลือกใช้ในโครงการ จะเลือกพันธุ์ไม้ ที่นอกจากความสวยงามแล้ว ยังมีประโยชน์ในเรื่องของการให้ร่มเงา ดูดซับคาร์บอน และกรองฝุ่น อาทิ จิกน้ำ จามจุรี กระพี้จั่น สนฉัตร และมะฮอกกานี และบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มากกว่าที่มาตรฐานกำหนด เฉลี่ยอย่างน้อย 5% ต่อโครงการ

โดยในปี 2566 มีจำนวนพื้นที่สีเขียวใน 16,397.67 ตารางวา มีจำนวนไม้ยืนต้น 2,938 ต้น สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 21,798 กิโลกรัมต่อปี ดักจับฝุ่นและมลพิษในอากาศ 4,113.20 กิโลกรัมต่อปี และรองรับความต้องการออกซิเจน จำนวน 4,520 คนต่อปี

• พื้นที่สีเขียวทั้งหมด 16,397.67 ตารางวา ในโครงการสร้างใหม่ ปี 2566
  เพิ่มขึ้นจากปี 2565 คิดเป็น 256% (จากปี 2565 มีจำนวน 4,602.35 ตารางวา)
• ไม่มี โครงการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ทางธรรมชาติ

บริการ Shuttle Van รับ-ส่งลูกบ้านในโครงการ

บริษัทฯ ได้จัด Shuttle Van รับ-ส่งลูกบ้าน จากโครงการต้นทาง ถึง BTS สถานีคูคต-ลำลูกกา เพื่อเป็นการลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ส่งผลให้ประหยัดการใช้เชื้อเพลิงในการเดินทางอีกด้วย โดยในปี 2566 มีบริการใน 3 โครงการ ที่ใกล้กับจุดสถานี BTS ได้แก่ บริทาเนีย คูคต สเตชั่น, บริทาเนีย สายไหม และไบรตัน คูคต สเตชั่น ปี 2566 มีการใช้บริการฉลี่ยวันละ 120 คน คิดเป็นปีละ 37,440 คน

การจัดการขยะและของเสีย

การจัดการขยะและของเสียในการก่อสร้าง

การจัดการขยะมูลฝอยที่เกิดจากคนงาน ผู้รับเหมาจะจัดให้มีถังขยะ ตั้งไว้บริเวณพื้นที่ก่อสร้าง แยกประเภทเป็นถังขยะเปียก และถังขยะแห้ง โดยในแต่ละวัน จะจัดให้มีคนงานรับผิดชอบ ในการจัดเก็บเพื่อรอรถเก็บ ขนมูลฝอยเข้ามาทำการเก็บขนและนำไปกำจัดต่อไป ส่วนขยะที่สามารถรีไซเคิลได้ ก็จะรวบรวมจำหน่ายเพื่อเป็นรายได้ให้กับแรงงานก่อสร้างต่อไป รวมถึงเศษวัสดุจากการก่อสร้าง เช่น เศษไม้ เศษอิฐ เศษปูน และเศษเหล็ก เป็นต้น ผู้รับเหมาก่อสร้างนำมาใช้ประโยชน์ต่อโดยการเป็นวัสดุถมพื้น รวมถึงการนำวัสดุที่มีตำหนิบริจาคให้กับองค์กรสาธารณะประโยชน์ นำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

กิจกรรม B SHARE บริจาคกระเบื้องปูพื้นให้กับสำนักงานเขตประเวศและมูลนิธิกระจกเงา

เพื่อนำไปเป็นสาธารณะประโยชน์ต่อการพัฒนาชุมชนและที่อยู่อาศัยของผู้ที่ขาดแคลนและมีความต้องการพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมูลนิธิกระจกเงา จะนำกระเบื้องปูพื้นที่ได้รับไปใช้พัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับผู้ป่วยในต่างจังหวัด ในโครงการอาสามาเยี่ยม และสำนักงานเขตประเวศจะนำส่วนหนึ่งไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาพื้นในศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนเกาะมุสลิมและพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางของชุมชนในเขตประเวศต่อไป

การจัดการขยะภายในโครงการบ้าน

สำหรับโครงการบ้านบริทาเนีย บริษัทฯ ได้จัดให้มีจุดตั้งถังขยะแยกประเภทขยะ ได้แก่ ถังขยะเปียก (ขยะย่อยสลายได้) ถังมูลฝอยทั่วไป (ขยะแห้ง) ถังขยะรีไซเคิล และถังขยะอันตราย เพื่อให้ผู้พักอาศัยมีการการดัดแยกขยะให้ถูกประเภทก่อนทิ้ง รวมถึงจัดให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้พักอาศัยคัดแยกขยะ และนำกลับมาใช้ซ้ำได้ในขยะบางประเภท เช่น ถุงพลาสติกหรือถุงกระดาษสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อลดปริมาณขยะของโครงการ ผ่านการจัดกิจกรรม Workshop และ กิจกรรม WASTE CYCLE DAY สัญจรรับขยะรีไซเคิล ร่วมกับ RECYCOEX และบริษัทฯ เห็นถึงความสำคัญของการจัดการขยะเศษอาหาร จึงจัดกิจกรรม FOOD WASTE LESS LET’S B GREEN นำร่องที่โครงการบริทาเนีย บางนา กม.26 โดยเป็นกิจกรรมที่สนับสนุนให้ลูกบ้านนำเศษอาหารมาใส่ในเครื่องย่อยเศษอาหารปุ๋ย ณ คลับเฮาส์

การจัดการขยะภายในสำนักงาน

บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมให้พนักงานมีการจัดการขยะ ลดขยะ ด้วยการแยกขยะ ทิ้งขยะรีไซเคิลให้ถูกถัง ณ จุดถังขยะแยกประเภทที่สำนักงานใหญ่ โดยขยะรีไซเคิลที่รวบรวมได้ถูกส่งต่อให้กับกลุ่ม CIRPLAS นำไปจัดการอย่างถูกวิธี เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งการ Recycle และ Upcycle ต่อไป และตั้งจุดบริการเครื่องย่อยเศษอาหารเป็นปุ๋ย เพื่อให้พนักงานทิ้งเศษอาหาร แปรเปลี่ยนเศษอาหารเป็นปุ๋ย

การจัดการน้ำเสีย

บริษัทฯ มีการดำเนินการจัดการควบคุมคุณภาพน้ำ ก่อนระบายสู่สาธารณะ โดยทำการระบายน้ำโดยใช้ท่อคอนรีตอัดแรง ฝังใต้ดินเรียงขนานไปกับแนวถนนโดยมีบ่อพักการระบายน้ำในโครงการที่ผ่านการบำบัดน้ำเสียในที่ดินแต่ละแปลง และจัดให้มีบ่อพักตรวจการระบายน้ำทุกระยะไม่เกิน 15 เมตร และทุกจุดที่มีการเปลี่ยนแปลงขนาดท่อและจุดบรรจบของท่อเพื่อความสะดวกในการทำความสะอาด โดยน้ำทั้งหมดไหลลงสู่บ่อบำบัดน้ำเสียรวมและบ่อตรวจคุณภาพน้ำ ก่อนที่จะระบายลงสู่คลองสาธารณประโยชน์

โดยบริษัทฯ ได้ทำการตรวจคุณภาพน้ำของแหล่งน้ำสาธารณะประโยชน์ ก่อนการดำเนินการก่อสร้าง และหลังการก่อสร้างอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้กระทบกับคุณภาพน้ำของแหล่งน้ำบริเวณใกล้กับโครงการ และบริษัทฯ ได้มีการจัดการนำน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วมาใช้ประโยชน์รดน้ำต้นไม้และล้างพื้นถนนโครงการนำร่อง 1 โครงการ ได้แก่ บริทาเนีย ราชพฤกษ์ นครอินทร์ โดยมีปริมาณน้ำที่บำบัดและนำกลับมาใช้ประโยชน์จำนวน 154.14 ลูกบาศก์เมตร หรือ 154,140 ลิตร

การจัดการผลกระทบด้านฝุ่นละออง

บริษัทฯ คำนึงถึงความสำคัญของการลดปริมาณการปล่อยฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ในการดำเนินการก่อสร้างไม่ให้เกินค่ามาตรฐาน โดยมีการดำเนินการตามตัวอย่างดังนี้

1. การล้างถนน เพื่อลดปริมาณฝุ่น
2. ไม่เก็บกองวัสดุที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นในบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง
3. กำชับให้รถบรรทุกดินและกระบะของรถบรรทุกทุกคันในขณะขนดินเข้า - ออก พื้นที่ก่อสร้างต้องคลุมด้วยผ้าใบให้มิดชิด รวมถึงการใช้ระบบการขนส่งที่จะก่อให้เกิดฝุ่นเป็นระบบปิด เพื่อป้องกันฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย
4. จัดทำสแลนกันฝุ่นในเขตก่อสร้างช่วยป้องกันฝุ่นละอองที่จะเล็ดลอดออกไปภายนอกและเพื่อความ