การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่สำคัญ
2564

- บริษัทฯ ประกาศแผนเปิดโครงการ จำนวน 9 โครงการ รวมมูลค่า 7,750.0 ล้านบาท
- บริษัทฯ เปิดขายโครงการ ไบรตัน อมตะ ศุขประยูร (Brighton Amata-Sukprayoon) ประกอบด้วยทาวน์เฮ้าส์ จำนวน 223 หน่วย มูลค่าโครงการ 650.0 ล้านบาท โดยเริ่มเปิดขายในเดือนกุมภาพันธ์ 2564
- บริษัทฯ เปิดขายโครงการ แกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม.12 (Grand Britania Bangna KM.12) ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว จำนวน 67 หน่วย มูลค่าโครงการ 700.0 ล้านบาท และโครงการแกรนด์ บริทาเนีย ราชพฤกษ์ พระราม 5 (Grand Britania Ratchaphruek – Rama 5) ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด จำนวน 246 หน่วย มูลค่าโครงการ 2,100.0 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการ เริ่มเปิดขายรอบพิเศษในเดือนมีนาคม 2564
- บริษัท บริทาเนีย โฮม บางนา กม.17 จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 ด้วยทุนจดทะเบียน 1.0 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ ภายใต้โครงการบริทาเนีย โฮม บางนา กม.17
- บริษัท บริทาเนีย บางนา กม.35 จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 ด้วยทุนจดทะเบียน 1.0 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ ภายใต้โครงการแกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม. 35
- ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ของบริษัทฯ มีมติ ดังนี้
- อนุมัติการแปรสภาพบริษัทจากบริษัทจำกัดเป็นบริษัทมหาชนจำกัด โดยบริษัทฯ ได้จดทะเบียนแปรสภาพจากบริษัทจำกัดเป็นบริษัทมหาชนจำกัดเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564
- เปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัทฯ จากเดิมหุ้นละ 10.0 บาท เป็นหุ้นละ 0.50 บาท ส่งผลให้จำนวนหุ้นสามัญของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจาก 30,000,000 หุ้น เป็น 600,000,000 หุ้น
- เพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 128,570,000 บาท ส่งผลให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นจาก 300,000,000 บาท เป็น 428,570,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 257,140,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ทั้งนี้ การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จะมีรายละเอียดดังนี้
- จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 230,200,000 หุ้น เพื่อออกและเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงบุคคลที่ความสัมพันธ์ ผู้มีอุปการคุณของบริษัทและบริษัทย่อย ผู้ถือหุ้นสามัญของ ORI เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้น (Pre-emptive Offering) นักลงทุนสถาบัน และ/หรือบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ทั้งนี้ บริษัทฯ มีสิทธิใช้ดุลพินิจพิจารณาไม่เสนอขายหรือไม่จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลใดหรือผู้จองซื้อรายใด หากการเสนอขายหรือจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวทำให้ หรืออาจเป็นผลให้ (ก) บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ หรือ (ข) ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไขที่กำหนดในการเสนอขายหรือจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน
- จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 13,470,000 หุ้น เพื่อเสนอขายแก่กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือ พนักงานของ ORI และบริษัทย่อยของ ORI
- จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 8,980,000 หุ้น เพื่อเสนอขายแก่กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือ พนักงานของบริษัท และบริษัทย่อยของบริษัท (“โครงการ ESOP”)
- จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 4,490,000 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ (ESOP Warrant) ที่ออกและเสนอขายให้แก่ กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อยของบริษัท (“โครงการ ESOP Warrant”)
- ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2564 ของบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีมติ ดังนี้
- อนุมัติการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 8,980,000 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือ พนักงานของบริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อยของ บริษัทฯ (“ESOP”)
- อนุมัติการออกและเสนอขายใบสําคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือ พนักงานของบริษัทฯ และ/หรือบริษัทย่อยของบริษัทฯ (“ESOP Warrant”)
- อนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน (ESOP) และใบสําคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (ESOP Warrant) ของบริษัทฯ ให้แก่ นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ กรรมการ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทฯ ที่จะได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน (ESOP) และใบสําคัญแสดงสิทธิ (ESOP Warrant) ซึ่งรวมแล้วเกินกว่า ร้อยละ 5 ของหุ้นสามัญเพิ่มทุนและใบสําคัญแสดงสิทธิที่เสนอขายภายใต้โครงการ ESOP และโครงการ ESOP Warrant
- อนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน (ESOP) และใบสําคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (ESOP Warrant) ของบริษัทฯ ให้แก่ นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ กรรมการบริหาร และประธานอํานวยการของบริษัทฯ ที่จะได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน (ESOP) และใบสําคัญแสดงสิทธิ (ESOP Warrant) ซึ่งรวมแล้วเกินกว่าร้อยละ 5 ของหุ้นสามัญเพิ่มทุนและใบสําคัญแสดงสิทธิที่เสนอขายภายใต้ โครงการ ESOP และโครงการ ESOP Warrant
- บริษัท สเตเบิ้ล ทาวน์ จำกัด และบริษัท บริทาเนีย อมตะ พานทอง จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2564 และ 25 ตุลาคม 2564 ตามลำดับ ด้วยทุนจดทะเบียน 1.0 ล้านบาททั้ง 2 บริษัท เพื่อประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ
- ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2564 เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 มีมติ ดังนี้
- อนุมัติการกำหนดหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 34,530,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 13.67 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่บริษัทฯ เสนอขายครั้งนี้ เพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นสามัญของ ORI เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้น (Pre-emptive Offering) โดยมีรายชื่อปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของ ORI ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ตามที่คณะกรรมการของ ORI หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการของ ORI จะเป็นผู้กำหนดต่อไป ในราคาเสนอขายหุ้นเท่ากับราคาที่จะเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และกำหนดให้มีการให้สิทธิจองซื้อเกินกว่าสิทธิ (Oversubscription) และการจัดสรรหุ้นที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิ (Oversubscription Allotment Methods) โดยไม่มีการกำหนดอัตราสูงสุดของการจองซื้อเกินกว่าสิทธิ (Over subscription without cap of entitled right)
- อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตรา 1.23 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้นไม่เกิน 738,000,000 บาท โดยบริษัทฯ จะจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด รวมทั้งอนุมัติการจัดสรรกำไรสุทธิจำนวน 36,900,000 บาท เพื่อเป็นทุนสำรองตามกฎหมาย
2563

- บริษัทฯ เปิดขายโครงการ บริทาเนีย สายไหม (Britania Saimai) ประกอบด้วยบ้านแฝดและทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 297 หน่วย มูลค่าโครงการ 1,400.0 ล้านบาท เริ่มเปิดขายในเดือนมีนาคม 2563
- บริษัทฯ เปิดขายโครงการ แกรนด์ บริทาเนีย วงแหวน รามอินทรา (Grand Britania Wongwaen Ramintra) ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 278 หน่วย มูลค่าโครงการ 1,900.0 ล้านบาท เริ่มเปิดขายในเดือนมีนาคม 2563 ซึ่งเป็นการเปิดโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ “แกรนด์ บริทาเนีย” ครั้งแรก ซึ่งเป็นแบรนด์บ้านระดับราคา 8 – 20 ล้านบาท เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีครอบครัวเริ่มต้น ครอบครัวขนาดกลาง
- บริษัทฯ เปิดขายโครงการ ไบรตัน บางนา กม.26 (Brighton Bangna KM.26) ประกอบด้วยทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นและ 3 ชั้น จำนวน 99 หน่วย มูลค่าโครงการ 350.0 ล้านบาท และโครงการ ไบรตัน คูคต (Brighton Khukhot) ประกอบด้วยบ้านแฝดและทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น จำนวน 224 หน่วย มูลค่าโครงการ 750.0 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการ เริ่มเปิดขายในเดือนกันยายน 2563 ซึ่งเป็นการเปิดโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ “ไบรตัน” ครั้งแรก ซึ่งเป็นแบรนด์บ้านระดับราคา 2 – 4 ล้านบาท เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้า Young Worker กลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Y – Gen Z
- บริษัทฯ เปิดขายโครงการ เบลกราเวีย เอ๊กซ์คลูซีฟ พูลวิลลา บางนา-พระราม 9 (Belgravia Exclusive Pool Villa Bangna) ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 65 หน่วย มูลค่าโครงการ 1,800.0 ล้านบาท เริ่มเปิดขายในเดือนธันวาคม 2563 ซึ่งเป็นการเปิดโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ “เบลกราเวีย” ครั้งแรก ซึ่งเป็นแบรนด์บ้านระดับราคา 20 – 50 ล้านบาท เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าระดับผู้บริหาร และเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่
- บริษัทฯ เพิ่มทุนจดทะเบียนจากจำนวน 200.0 ล้านบาท เป็น 300.0 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2563 เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์
- บริษัท สเตเบิ้ล โฮม พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เพิ่มทุนจดทะเบียนจากจำนวน 1.0 ล้านบาท เป็น 15.0 ล้านบาท เมื่อวัน 9 ตุลาคม 2563 เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์
2562

- บริษัทฯ เปิดขายโครงการ บริทาเนีย วงแหวน-หทัยราษฎร์ (Britania Wongwaen-Hathairat) ประกอบด้วยบ้านแฝด และทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 288 หน่วย มูลค่าโครงการ 1,050.0 ล้านบาท เริ่มเปิดขายในเดือนมีนาคม 2562
- บริษัทฯ เปิดขายโครงการ บริทาเนีย คูคต สเตชั่น (Britania Khukhot Station) ประกอบด้วยบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 2 ชั้น จำนวน 138 หน่วย มูลค่าโครงการ 750.0 ล้านบาท และโครงการบริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ (Britania Bangna-Suvarnabhumi) ประกอบด้วยบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 2 ชั้น จำนวน 485 หน่วย มูลค่าโครงการ 2,700.0 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการ เริ่มเปิดขายในเดือนตุลาคม 2562
- บริษัทฯ เปิดขายโครงการ บริทาเนีย บางนา กม.42 (Britania Bangna-KM.42) ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 492 หน่วย มูลค่าโครงการ 1,500.0 ล้านบาท เริ่มเปิดขายในเดือนพฤศจิกายน 2562
- บริษัทฯ มีการปรับโครงสร้างของกลุ่มบริษัทฯ โดยบริษัทฯ ได้ซื้อหุ้น 3 บริษัท จากบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ได้แก่
- บริษัท ดิสทริคท์ แกรนด์ เรียลเอสเตท จำกัด (เพื่อพัฒนาโครงการ บริทาเนีย บางนา สุวรรณภูมิ)
- บริษัท สเตเบิ้ล โฮม พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (เพื่อพัฒนาโครงการ ไบรตัน บางนา กม. 26)
- บริษัท เบลกราเวีย บางนา จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท พาร์ค วิลล่า อ่อนนุช จำกัด) (เพื่อพัฒนาโครงการ เบลกราเวีย เอ๊กซ์คลูซีฟ พูลวิลลา บางนา-พระราม 9)
- เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 เปลี่ยนชื่อจากบริษัท ออริจิ้น เฮ้าส์ จำกัด เป็น บริษัท บริทาเนีย จำกัด เพื่อตอกย้ำและสร้างการรับรู้ในแบรนด์บริทาเนีย
- บริษัท เบลกราเวีย ราชพฤกษ์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2562 ด้วยทุนจดทะเบียน 1.0 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ ภายใต้โครงการ แกรนด์ บริทาเนีย ราชพฤกษ์-พระราม 5
- บริษัท บริทาเนีย วงแหวน รามอินทรา จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2562 ด้วยทุนจดทะเบียน 1.0 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ ภายใต้โครงการ แกรนด์ บริทาเนีย วงแหวน รามอินทรา โดยมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 30.0 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2562 และเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 50.0 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2562 เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์
- บริษัท ดิสทริคท์ แกรนด์ เรียลเอสเตท จำกัด เพิ่มทุนจดทะเบียนจากจำนวน 1.0 ล้านบาท เป็น 30.0 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562 เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์
- บริษัทฯ เพิ่มทุนจดทะเบียนจากจำนวน 120.0 ล้านบาท เป็น 200.0 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2562 เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์
2561
- บริษัทฯ เปิดขายโครงการ บริทาเนีย เมกะทาวน์ บางนา (Britania Mega Town-Bangna) ประกอบด้วยบ้านแฝด และทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 472 หน่วย มูลค่าโครงการ 1,900.0 ล้านบาท เริ่มเปิดขาย ในเดือนธันวาคม 2561
- บริษัทฯ เปิดขายโครงการ บริทาเนีย บางนา กม.12 (Britania Bangna KM.12) ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว จำนวน 182 หน่วย มูลค่า โครงการ 1,162.0 ล้านบาท เริ่มเปิดขายในเดือนธันวาคม 2561 และสามารถปิดโครงการได้ในเดือนพฤศจิกายน 2563
2560
- บริษัทฯ เปิดขายโครงการบริทาเนีย ศรีนครินทร์ (Britania Srinakarin) เป็นโครงการแรกของบริษัทฯ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด 2 ชั้น จำนวน 149 หน่วย มูลค่าโครงการ 867.0 ล้าน บาท เริ่มเปิดขายในเดือนพฤศจิกายน 2560 และสามารถปิดโครงการ ได้ในเดือนกันยายน 2562
2559
- บริษัท ออริจิ้น เฮ้าส์ จำกัด (ชื่อเดิม) ก่อตั้งด้วยทุนจดทะเบียนจำนวน 1.0 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภท ที่อยู่อาศัยแนวราบ
- บริษัทฯ เพิ่มทุนจดทะเบียนจากจำนวน 1.0 ล้านบาท เป็น 120.0 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2559 เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับพัฒนา โครงการอสังหาริมทรัพย์