ซึ่งสะท้อนถึงภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ดังนั้นในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ จึงได้ปรับกลยุทธ์และแผนการดำเนินงาน โดยการกระจายการเปิดโครงการไปยังพื้นที่มีศักยภาพรอบนอกกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดที่มีศักยภาพแห่งใหม่ รวมถึงกระจายโครงการไปยังเซ็กเมนท์ที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งช่วยให้บริษัทยังคงรักษาระดับผลประกอบให้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาได้
ด้านผลประกอบการการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2566 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 19,907.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 55.01 มีรายได้รวม 5,861.85 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.9 โดยมีกำไรสุทธิ 1,194.53 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 18.8 เมื่อเทียบกับปี 2565 โดยมีการเปิดโครงการใหม่จำนวนทั้งสิ้น 12 โครงการคิดเป็นมูลค่าโครงการรวม 16,850 ล้านบาท ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทฯได้มีการระดมทุนจากตลาดตราสารหนี้ระยะยาว ด้วยการออกและเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและสาธารณชน โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับเครดิตองค์กรและอันดับเครดิตหุ้นกู้ของบริษัทฯที่ระดับ “BBB” แนวโน้ม “STABLE” ซึ่งเป็นระดับ Investment Grade โดยสะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
ในปีที่ผ่านมา ผลการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เป็นที่ยอมรับทั้งจากลูกค้าและจากองค์กรต่างๆ ดังจะเห็นได้จากการได้รับการประเมินรายงานการกำกับ ดูแลกิจการ (Corporate Governance Report) ประจำปี 2566 ในระดับ “ดีเลิศ” ได้รับคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้เป็นหนึ่งในรายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2566 ในระดับ “AA” และบริษัทฯ ยังได้รับรางวัล “โครงการอสังหาริมทรัพย์ดีเด่น FIABCI-THAI PRIX D'EXCELLENCE AWARDS 2023” ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ แกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม.35 และ บริทาเนีย ติวานนท์-ราชพฤกษ์ และ รางวัล “The Winner ในสาขา Best Affordable Housing Development” จากโครงการ บริทาเนีย บางนา กม.39 นอกจากนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของบริษัทฯ ยังได้รับรางวัล “บุคคลตัวอย่างในภาคธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์” จากโครงการพิจารณาคัดเลือก “บุคคลคุณภาพแห่งปี 2023” อีกด้วย
สุดท้ายนี้ ผมขอขอบพระคุณลูกค้าผู้มีอุปการะคุณ พันธมิตรและคู่ค้าทางธุรกิจท่านผู้ถือหุ้น คณะกรรมการบริษัท ผู้บริหารและเพื่อนพนักงานทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมกันสนับสนุนให้บริษัทฯ สามารถขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงานสามารถปรับ ตัวต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ไม่เอื้ออำนวยในปีที่ผ่านมาได้ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะยังคงมุ่งมั่นที่จะใช้นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบและพัฒนา โครงการที่อยู่อาศัยที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้อยู่อาศัย ปรับการดำเนินงานทางธุรกิจให้สอดคล้องกับภาวะตลาดที่ยังคงเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ โดยยึดหลักการดำเนินธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความรับผิด ชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และทุกภาคส่วนในห่วงโซ่คุณค่าทางธุรกิจ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับบริษัทฯต่อไป