ตัวชี้วัด | เป้าหมาย | ||
---|---|---|---|
เป้าหมายระยะสั้น | เป้าหมายระยะกลาง | เป้าหมายระยะยาว | |
ชั่วโมงการฝึกอบรม | เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10% | เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 15% | เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 25% |
สัดส่วนคู่ค้าที่ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนจากคู่ค้าทั้งหมด | เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5% | เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5% | เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 25% |
มีผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ลูกค้าและผู้มึส่วนได้เสีย | อย่างน้อย 1 โครงการ | อย่างน้อย 2 โครงการ | ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง |
จำนวนกรณีฝ่าฝืนจรรยาบรรณธุรกิจ | ไม่มีกรณีฝ่าฝืนจรรยาบรรณธุรกิจ |
สรุปเป้าหมายและผลการดำเนินการด้านสังคม
ตัวชี้วัด | เป้าหมาย | ผลการดำเนินงาน |
---|---|---|
การเคารพสิทธิมนุษยชนและปฏิบัติต่อแรงงานเป็นธรรม | ข้อร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชนเป็นศูนย์ | 0 ราย |
ความปลอดภัยอาชีวอนามัย | อัตราการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานของพนักงานและผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นศูนย์ | 0 ราย |
ส่งมอบคุณค่าร่วมแก่ลูกค้า ชุมชนและสังคม | ข้อร้องเรียนของชุมชนและสังคมเป็นศูนย์ | 0 ราย |
ความพึงพอใจของลูกค้าต่อบริการอย่างน้อย 80% | 91% | |
ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมที่ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย |
|
|
การดูแลและพัฒนาบุคลากร | ชั่วโมงการฝึกอบรมพนักงานเฉลี่ย 6 ชั่วโมงต่อคนต่อปี | เฉลี่ย 7.42 ชั่วโมงต่อคนต่อปี |
ความปลอดภัยทางด้านข้อมูล และการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล | การประเมินความเพียงพอของระบบการควบคุมภายใน 100% | 100% |
ข้อร้องเรียนเรื่องการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเป็นศูนย์ | 0 ราย | |
บรรษัทภิบาลและการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน | ผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (CGR) ในระดับดีมาก | ผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (CGR) ในระดับดีเลิศ |
เป็นแนวร่วมภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน | ผ่านการรับรองเป็นแนวร่วมภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน | |
จำนวนกรณีฝ่าฝืนจรรยาบรรณธุรกิจเป็นศูนย์ | ไม่มีกรณีฝ่าฝืนจรรยาบรรณธุรกิจ |
การปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเป็นธรรม และเคารพสิทธิมนุษยชน
บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความสำคัญต่อการป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนในการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนพึงจะได้รับอย่างเท่าเทียมกัน โดยบริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานและการปฏิบัติต่อพนักงานตามกฎหมายแรงงานอย่างเคร่ง รวมทั้งการพิจารณาในประเด็นต่างๆที่อาจจะส่งผลต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนได้ เช่น การไม่มีข้อจำกัดในเรื่องเพศในการว่าจ้างพนักงาน โดยบริษัทฯ จะพิจารณาที่ความสามารถและความเหมาะสมของผู้สมัครงานเป็นหลัก โดยบริษัทฯ ได้มีการออกนโยบายสิทธิมนุษยชนประกาศอย่างชัดเจน และกำหนดระเบียบวิธีการประเมินความเสี่ยงและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อระบุมาตรการป้องกันและลดผลกระทบจากความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนในการดำเนินงานของบริษัทฯ ตลอดห่วงโซ่คุณค่า และได้มีการดำเนินการเพื่อป้องกัน บรรเทาความรุนแรงของผลกระทบในภาพรวม
การจ้างงาน
บริษัทฯ มีการสรรหาการว่าจ้างพนักงานโดยพิจารณาถึงคุณสมบัติที่เหมาะสมกับองค์กรและตำแหน่งงานภายใต้แนวคิดการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล โดยในปี 2566 บริษัทฯ มีการจ้างพนักงานประจำ พนักงานสัญญาจ้าง จำนวน 666 คน และบริษัทฯ ได้มีการส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ตามระเบียบที่กฎหมายกำหนดในการจ้างงานคนพิการ จำนวน 5 คน โดยการจ้างงานของบริษัทฯ มีความหลากหลายในแต่ละด้าน
การดูแลพนักงาน
บริษัทฯ ตระหนักถึงคุณค่าทรัพยากรมนุษย์ และส่งเสริมให้พนักงานปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดมีสภาพการจ้างงานที่ยุติธรรม มีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงาน โดยบริษัทจะปฏิบัติต่อพนักงานทุกคนโดยเสมอภาคกันไม่แบ่งแยกในเรื่องเชื้อชาติ เพศ สีผิว ศาสนา ชาติกำเนิด อายุ รสนิยมทางเพศ ความพิการทางร่างกาย หรือลักษณะส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน และจะดูแลไม่ให้เกิดความคุกคามข่มขู่ต่อบุคลากรทุกระดับ ไม่ว่าจากบุคคลใดหรือโดยวิธีใดๆ
การจ่ายค่าตอบแทนและสวัสดิการ
บริษัทฯ ได้มีนโยบายการให้ความสำคัญกับการดูแลสวัสดิการและสุขภาพของพนักงานทุกคนทุกระดับอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน โดยเป็นปัจจัยหนึ่งในองค์ประกอบของการเป็นองค์กรแห่งความสุข ด้วยการเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับพนักงาน (Work-Life Balance)เพื่อให้พนักงานมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรง มีความสุขในการทำงาน และส่งเสริมให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยแนวคิดพนักงาน คือทรัพยากรบุคคลที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จ
โดยบริษัทฯ จัดให้มีคณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบการจำนวน 7 คน เพื่อเป็นตัวแทนพนักงานในการร่วมปรึกษาหารือ ดูแล และเสนอความคิดเห็นในเรื่องสวัสดิการต่างๆ ของพนักงาน เสนอมายังผู้บริหารระดับสูง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีระหว่างนายจ้างกับพนักงานในการจัดสวัสดิการการปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงาน และยังเป็นการสร้างขวัญ และกำลังใจในการทำงานของพนักงานอันนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น
โครงการ Beside YOU
ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ ได้จัดทำโครงการ HR Beside You เพื่อเป็นการพบปะ พูดคุย อัพเดทข้อมูลข่าวสารให้กับพนักงานประจำโครงการต่างๆ โดยทาง HR จะทำการพบปะพูดคุยกับพนักงานไตรมาสละ 1 ครั้ง โดยในไตรมาส 4 ปี 2566 รวมทั้งสิ้น 29 โครงการ
สุขภาวะ และความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมการทำงาน
บริษัทฯ ตระหนักดีว่าการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานนั้น เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีความสำคัญต่อความยั่งยืนขององค์กร เพราะแสดงถึงความเชื่อมั่นขององค์กรในเรื่องการดูแลความปลอดภัยของพนักงาน และแรงงาน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอันตรายจากการทำงาน จึงต้องนึกถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก (safety first) ดังนั้นบริษัทฯ จึงมุ่งมั่นที่จะสร้างรากฐานระบบการทำงานที่ปลอดภัยอย่างยั่งยืน โดยกำหนดกรอบการดำเนินงานให้กับพนักงาน คู่ค้า รวมถึงชุมชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับกิจกรรมการดำเนินงานของบริษัทฯ ตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล
เพื่อให้สามารถบริหารจัดการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในการทำงาน บริษัทฯ ได้จัดตั้งคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน และออกคู่มือด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน สำหรับงานก่อสร้างแนวราบ ขึ้นเพื่อเป็นแนวปฏิบัติเพื่อสร้างความปลอดภัยในพื้นที่โครงการก่อสร้าง
- กิจกรรมอบรม จป.บริหาร รุ่นที่ 1 บริษัทฯ จัดอบรม จป.บริหารให้กับพนักงานของบริษัทฯ ในตำแหน่ง Project Engineer และ Project Manager (ที่ยังไม่เคยได้รับการอบรม) รวมจำนวน 20 คนเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในพื้นที่ก่อสร้าง
สร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า
ลูกค้าถือเป็นหัวใจของการดำเนินธุรกิจ องค์กรที่สามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และตอบสนองได้อย่างเหมาะสมจะเป็นผู้ประสบความสำเร็จ สำหรับสินค้าหมวดที่อยู่อาศัยทีมีอัตราความเสี่ยงในการลงทุน และอัตราการแข่งขันสูง การบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพผ่านกระบวนการและกิจกรรมต่างๆ จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ดังนั้นการสร้างประสบการณ์ตั้งแต่ แรกพบ จบจอง จนถึง จับใจ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ด้วย CUSTOMER EXPERIENCE กับ แนวคิดหัวใจบริการ BRI HEARTMADE บริษัทฯ มุ่งสนับสนุนให้พนักงานบริทาเนียทุกคน มีแนวคิดหัวใจบริการ BRI HEARTMADE กับ 9 ความใส่ใจในการพัฒนาโครงการและการดูแลให้บริการลูกค้า
การออกแบบบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการ
โดยบ้านบริทาเนียจะมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่แตกต่างเหนือระดับในทุกมิติ ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว ภายใต้แนวคิด B CRAFT COLLECTION : A MASTERPIECE OF CRAFT a life you love
ความพึงพอใจและการจัดการข้อร้องเรียน
ในปี 2566 บริษัทฯ มีข้อร้องเรียนที่มีนัยสำคัญ (critical complaint) จำนวน 89 เคส ซึ่งลดลงจากปี 2565 จำนวน 21 เคส และบริษัทฯ จะมีการประเมินความพึงพอใจลูกค้า เมื่อเจ้าหน้าที่ Home care เข้าซ่อมงานแล้วเสร็จ เพื่อเป็นการควบคุมการบริการให้ได้ตามมาตรฐาน โดยกำหนดเป้าหมายให้ได้รับผลการประเมินไม่น้อยกว่า 3 คะแนน (พอใช้) นอกจากนี้ฝ่ายบริการหลังการขายจะยังคงดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่องแม้ว่าการรับประกันจะสิ้นสุดลง โดยยังคงให้คำปรึกษาแนะนำการบำรุงรักษาต่างๆ ที่เป็นไปตามข้อกำหนดของแต่ละโครงการ เพื่อให้ลูกค้ามีความสบายใจและเข้าใจการดูแลงรักษาตัวบ้านและพื้นที่ส่วนกลางให้คงสภาพการใช้งานและมีความสวยงาม เพื่อความสัมพันธ์อันดีและความพึงพอใจในบริการอย่างต่อเนื่อง โดยความพึงพอใจของลูกบ้านที่ใช้บริการ Home Care ปี 2566 คิดเป็น 91%
การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อการดูแลลูกค้าในโครงการ จึงได้จัดโครงการ “BRITANIA FAMILY” เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกบ้านบริทาเนีย เชื่อมโยงเรื่องของสังคม สิ่งแวดล้อม และพื้นที่โดยรอบโครงการ สร้างสังคมกับ “เพื่อนบ้าน” ที่ชอบอะไรเหมือนกัน และเพื่อสร้างประสบการณ์การมีส่วนร่วมในการแบ่งปัน ช่วยเหลือสังคม และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี
กิจกรรมสอนออกกำลังกาย ณ บริทาเนีย กม.42
CRAFT Workshop Diffuser ณ แกรนด์ บริทาเนีย วงแหวน รามอินทรา
กิจกรรม Thank you party ณ ไบรตัน คูคต สเตชั่น
การมีส่วนร่วมกับชุมชนและสังคม
ในปี 2566 บริษัทฯ ได้วางเป้าหมาย SDGs (Sustainable Development Goals) พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจ และดำเนินกิจการบนพื้นฐานการมีส่วนร่วมพัฒนาต่อชุมชน และสังคมอย่างจริงจังและให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมแสดงความรับผิดชอบแก่ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง (Stakeholders) ทั้งภายในและภายนอกองค์กรอย่างสูงสุด ผ่านกิจกรรม CSR (Corporate Social Responsibility) โดยบริษัทฯ ได้วางรากฐานการดำเนินกิจกรรม CSR ภายใต้กลยุทธ์ B GOOD
โครงการ “CRAFT PARK พัฒนาพื้นที่สาธารณะเพื่อชุมชน
บริทาเนีย ร่วมกับเหล่าพันธมิตรทุกภาคส่วน ภาครัฐ-สังคม-เอกชน ดำเนินโครงการโครงการ CRAFT PARK เพื่อส่งเสริมสุขภาพดี เติมเต็มการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ สร้างการมีส่วนร่วมตั้งแต่การศึกษาความต้องการ ออกแบบและลงมือทำ เกิดเป็นความ CRAFT ในแบบฉบับที่ทุกคนร่วมกันสร้าง สู่การใช้ประโยชน์จากพื้นที่ร่วมกันอย่างยั่งยืน นำร่องแห่งแรกที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 8 บุญรอด รุ่งเรือง (ซ.อุดมสุข 18) เขตบางนา
CRAFT PARK มาจากไอเดียที่บริทาเนียต้องการนำความเชี่ยวชาญที่มีของบริษัทฯ ผสานกับความมุ่งมั่นที่จะทำประโยชน์เพื่อสังคม ด้วยการพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางขนาดไม่ใหญ่มากให้มีคุณภาพที่เกินขนาดของพื้นที่ CRAFT PARK แตกต่างในกระบวนการเพราะดำเนินการอย่างมีส่วนร่วม ตั้งแต่ลงพื้นที่สำรวจความต้องการ ร่วมกันเสนอความเห็นกับผู้ใช้ประโยชน์ สู่การลงมือทำอย่างเข้าใจ จึงเป็นที่มาของชื่อสวน CRAFT PARK ที่ทุกคนสามารถมีส่วนในการ CRAFT พื้นที่ในแบบฉบับที่เราทุกคนสร้างขึ้นได้เอง
โดย CRAFT PARK แห่งแรกได้เปิดใช้งานเมื่อเดือนธันวาคม 2566 และจะขยายพื้นที่โครงการอย่างต่อเนื่อง ให้บ้านอยู่ร่วมกับชุมชนและอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ให้คนในชุมชนได้มีสุขภาวะที่ดี ใช้ชีวิตในพื้นที่นี้อย่างมีความสุขร่วมกันอย่างยั่งยืน
โครงการ แบ่งกัน GREEN MARKET
บริทาเนียมุ่งหวังสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนและโครงการบ้านของบริทาเนีย ในการดำเนินกิจกรรมเพื่อเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เปิดพื้นที่ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม การมีสังคมสีเขียวที่ยังยืนไปด้วยกัน บริษัทฯ จึงดำเนินโครงการ แบ่งกัน GREEN MARKET ขึ้น เพื่อเป็นโอกาสให้ลูกบ้านเข้าถึงผลผลิตที่ดีต่อสุขภาพ GREEN ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ปันพื้นที่ สร้างโอกาสให้เกษตรกรได้มีช่องทางจำหน่ายผลผลิต โดยกิจกรรมจัดขึ้น ณ แกรนด์ บริทาเนีย ราชพฤกษ์ พระราม 5 เป็นแห่งแรก
การรักษาความปลอดภัยทางด้านข้อมูล และการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) และพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 ตลอดจนข้อกำหนดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเก็บข้อมูล การบันทึกข้อมูล การใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด การจัดเก็บรักษาข้อมูล รวมถึงการกำจัดข้อมูลภายหลังการใช้งาน เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับ PDPA ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป
โดยบริษัทฯ ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล (DPO) เพื่อรับผิดชอบประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวต่าง ๆ ในปี 2565 บริษัทได้ยกระดับการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ด้วยการเพิ่มการกำกับดูแลข้อมูลต่าง ๆ โดยบริษัทได้ทบทวนแนวปฏิบัติและนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างความมั่นใจว่าพนักงานทุกคนมีความรู้ทักษะ และเครื่องมือที่เหมาะสมในการคุ้มครองข้อมูลของลูกค้า และสื่อสารผ่านทางอีเมล์ เพื่อเน้นย้ำและกระตุ้นให้เห็นถึงบทบาทของพนักงานในการป้องกัน และแจ้งข้อมูลความผิดปกติกับบริษัท ซึ่งเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานในด้านการดูแลความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนั้นบริษัทยังติดตั้งเครื่องมือและเทคนโลยีที่ใช้ตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติมาใช้นอกจากนี้ระบบยังได้กำหนดมาตรการการสื่อสาร และสร้างความตระหนักถึงด้านความปลอดภัยข้อมูล การดูแลรักษาข้อมูล และการป้องกันการโจรกรรมเพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วม ผ่านระบบสื่อสารภายในรูปแบบต่าง ๆ
การรักษาความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย
เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวให้แก่ลูกบ้าน บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลกล้องวงจรปิดในกรณีที่มีใบแจ้งความเท่านั้น นอกจากนี้ การแลกบัตรประจำตัวของผู้มาเยี่ยมทุกครั้ง จะเก็บข้อมูลสำหรับการตรวจสอบการเข้าออกในแต่ละแห่ง ภายใต้มาตรการระบบรักษาความปลอดภัยให้แก่ลูกบ้าน โดยบริษัทได้กำหนด กระบวนการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งกำหนดให้ผู้เข้าถึงข้อมูลเข้าถึงได้เฉพาะผู้จัดการโครงการเท่านั้น รวมทั้งมีการเก็บข้อมูลผู้เข้าถึง (log) ตลอดจนกำหนดให้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นเท่านั้น โดยมิได้เก็บข้อมูลอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็นต่อการดำเนินงาน ซึ่งในบริเวณพื้นที่ของโครงการ จะมีการติดป้ายประชาสัมพันธ์เรื่องจุดติดตั้งกล้อง CCTV ให้ทราบอย่างชัดเจน
การต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน
บริษัทฯ กำหนดนโยบายการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยได้กำหนดแนวทางปฏิบัติในการดำเนินการในเรื่องต่างๆ ไว้ในนโยบายการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งบริษัทฯ ได้ผ่านการรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านคอร์รัปชัน (Thaiand's Private Sector Collective Action Coalition Against Corruption: CAC) เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2566 เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นโดยภาคธุรกิจของประเทศไทย และบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการเพื่อให้ได้รับการรับรองในฐานะสมาชิกแนวร่วมต่อต้านตอร์รัปชั่นของภาคเอกชนไทยต่อไป
นโยบายไม่รับของขวัญ (No Gift Policy)
บริษัทฯ ประกาศ "นโยบายไม่รับของขวัญ" ในทุกเทศกาลเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งความโปร่งใสและปราศจากการทุจริตคอร์รัปชัน โดยได้ทำการสื่อสารไปยังกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน คู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของกลุ่มบริษัท
การอบรมให้ความรู้แก่พนักงานเรื่องการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน
บริษัทฯ จัดอบรมให้ความรู้แก่พนักงานในเรื่องการต่อต้านทุจริตตอร์รัปชัน โดยจัดอบรมให้แก่พนักงานที่เข้ามาทำงานใหม่และพนักงานทุกคนภายในบริษัทฯ ให้ทราบถึงนโยบายการต่อต้านทุจริต คอร์รัปชันและแนวทางปฏิบัติต่างๆ ในการดำเนินงานตามนโยบาย รวมถึงมีการทำแบบทดสอบตวามรู้เกี่ยวกับมาตรการในการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น โดยในปี 2566 มีผู้บริหารและพนักงานเข้าร่วมในการทดสอบความรู้ จำนวน 102 คน ได้คะแนนร้อยละ 80.09 ของคะแนนการทดสอบหลังการอบรม
นวัตกรรมที่สร้างสรรค์
บริษัทได้มีการสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องต่างๆ เพื่อมาเติมเต็มการพัฒนาธุรกิจของบริษัทให้ครอบคลุมตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ทั้งทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม และบริษัทยังมุ่งเสริมสร้างศักยภาพของพนักงาน เพื่อยกระดับความร่วมมือของพนักงานในการสร้างสรรค์นวัตกรรมการทำงาน และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า อีกทั้งบริษัทฯ ได้ตั้งทีม “B SMART” ขึ้น เพื่อทำหน้าที่สรรหานวัตกรรมเพื่อการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสำหรับการอยู่อาศัย และเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในรูปแบบ Smart Living ช่วยเสริมสร้างโอกาส และความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจควบคู่ไปกับการส่งมอบประสบการณ์ที่สร้างคุณค่าแก่ลูกค้าและผู้เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน
โครงการ Smart Home
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับผู้อยู่อาศัยที่ต้องใช้ชีวิตภายในบ้าน โดยมุ่งเน้นพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรที่สามารถตอบสนองต่อการใช้ชีวิตของทุกเพศทุกวัย และทุกกิจกรรมในแต่ละวัน เพื่อสร้างความสะดวกสบายและตอบโจทย์การใช้ชีวิตตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย บริทาเนียจึงพัฒนานวัตกรรมต่างๆ ในบ้านที่เอื้อกับการใช้ชีวิตให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น อุปกรณ์อัจฉริยะ
โครงการ BRI AIR CRAFTING
ครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ บริทาเนีย จับมือ พานาโซนิค ส่งมอบนวัตกรรมเพื่อให้ใช้ชีวิตในแบบที่รักสร้างอากาศดีบริสุทธิ์ BRI AIR CRAFTING ด้วยการติดตั้งระบบฟอกอากาศ nanoeX นวัตกรรมล่าสุดจากพานาโซนิค ให้พื้นที่ส่วนกลางและบ้านในโครงการใหม่ทุกหลัง ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา สารก่อภูมิแพ้ ละอองเกสร ฝุ่นมลพิษ PM 2.5 รักษาความชุ่มชื้นของเส้นผมและผิวหนังอย่างมีประสิทธิภาพ นำร่อง 4 โครงการใหม่ บริทาเนีย วงแหวน-เทพารักษ์ , บริทาเนีย บางนา-เทพารักษ์ , แกรนด์ บริทาเนีย ประชาอุทิศ 76, แกรนด์ บริทาเนีย ทวีวัฒนา
งาน CG DAY บรรยาย เรื่อง การกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน Good Governance To B The Goodness
บริษัทฯ จัดกิจกรรม "CG DAY" ณ สำนักงานใหญ่ของบริษัท เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 เพื่อส่งเสริมให้คณะกรรมการบริษัท ผู้บริหารและพนักงานทุกคนให้ความสำคัญและยึดมั่นในแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องตามนโยบายการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญ ของการส่งเสริมให้พนักงานมีวัฒนธรรมการดูและกำกับกิจการที่ดี การดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส ซื่อสัตย์ ตรวจสอบได้ ไม่ทุจริต ไม่คอร์รัปชัน ไม่ปฏิบัติในสิ่งที่ผิดต่อจรรยาบรณธุรกิจ มีความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม
การบริหารจัดการคู่ค้า
บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ในการบริหารจัดการคู่ค้า เพื่อการเติบโตไปพร้อมกับคู่ค้า ตามแนวคิด Growth together และเพื่อให้สามารถส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพยึดหลักการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล โดยส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเน้นการจัดซื้อจัดหาสินค้าและบริการกับคู่ค้าภายในประเทศและคู่ค้าที่อยู่ในพื้นที่ของโครงการก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อส่งเสริมการสร้างประโยชน์ต่อชุมชนและสังคม ทั้งยังมีการ จรรณยาบรรณธุรกิจ สำหรับคู่ค้า (Business Code of Conduct) ที่ครอบคลุมประเด็นด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นกรอบการดำเนินงาน
กรอบการทำงานในการบริหารจัดการคู่ค้าอย่างยั่งยืน
- กระบวนการสรรหาและคัดเลือกคู่ค้า ต้องผ่านการพิจารณาคัดเลือกจากเกณฑ์คุณสมบัติเบื้องตันที่ บริษัทฯกำหนดขึ้น เช่น คุณภาพ ชื่อเสียง ความเชี่ยวชาญในธุรกิจ ประสบการณ์ทำงาน ความสามารถทางเทคนิคสถานะทางการเงินมั่นคง
- การขึ้นทะเบียนคู่ค้าใหม่ คู่ค้าใหม่จะต้องทำแบบประเมินตนเอง (New Vendor Pre-Qualification Form)
- การจำแนกประเภทคู่ค้า วิเคราะห์ประเภทและระดับความเสี่ยงของแต่ละกลุ่มคู่ค้าที่เกี่ยวข้อง ประเมินคู่ค้าหลักและประเมินความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อควบคุมความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นและกำหนดมาตรการการจัดการ
- ประเมินผลการปฏิบัติงาน คู่ค้าจะถูกประเมินผลงาน รวมถึงมีการบริหารจัดการความเสี่ยงของคู่าในด้านข้อบังคับและกฎหมาย ข้อมูลทางด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม และข้อมูลการดำเนินงานจากแหล่งข่าวและฐานข้อมูลภายนอก
- การดำเนินการหลังการตรวจประเมิน จะมีการติดตามการปฏิบัติตามจรรยาบรรณและแนวทางการปฏิบัติอย่างยั่งยืนของคู่ค้า เช่น การตรวจประเมินตนเองของคู่ค้า (Self-assessment) หรือการตรวจประเมิน ณ สถานประกอบการของคู่ค้า (Company Visit) เป็นต้น
บริษัทฯ จะทำการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของคู่ค้าประจำปี รวมทั้งกำหนดแนวทางปฏิบัติในการประเมินคู่ค้าทั้งก่อนและภายหลังการซื้อขาย ให้สามารถวัดผลและจัดเกรดคู่ค้าในแต่ละหมวดหมู่ได้ โดยกำหนดให้ฝ่ายจัดซื้อจัดจ้างเป็นผู้ประเมินศักยภาพคู่ค้าก่อนการซื้อขายเพื่อคัดกรองคู่ค้าที่มีผลการประเมินต่ำกว่าเกณฑ์ออกจาก Approved Vendor List
มาตรฐานและเกณฑ์การประเมินคู่ค้า
- คุณภาพของสินค้า ตรวจสอบคุณภาพ ตรงตามมาตรฐานที่อยู่ในเกณฑ์กำหนด
- การจัดส่งสินค้าและการส่งมอบงาน ตรงตามกำหนดเวลา และสถานที่ตามแผนงาน
- ความพึงพอใจ ความรวดเร็วในการดำเนินงาน และการตอบสนองการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ
- คำนึงถึงการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพื่อสร้างความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน ซึ่งประกอบไปด้วย
จำนวนคู่ค้าขึ้นทะเบียน (AVL) | ผ่านการประเมิน | ||||
---|---|---|---|---|---|
เกรด A 80-100 คะแนน | เกรด B 70-79 คะแนน | เกรด C 60-69 คะแนน | เกรด D 50-59 คะแนน | เกรด F 50 คะแนน | |
จำนวน 294 ราย | 3 ราย (1%) | 33 ราย (11%) | 258 ราย (88%) | 0 ราย | 0 ราย |
คู่ค้ารายสำคัญ
การดำเนินงานด้านการจัดการห่วงโซ่อุปทานของบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นจากการทบทวนความสำคัญของคู่ค้าของบริษัทฯ โดยทำการรวบรวมคู่ค้าที่มีการซื้อขายในรอบปีตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป (Critical Tier 1)
จากนั้นได้ทำการวิเคราะห์ลงลึกในชั้นถัดไปของห่วงโซ่อุปทาน หรือคู่ค้าของคู่ค้าของบริษัทฯ โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน และคำนึงถึงผลกระทบต่อการดำเนินกิจการของบริษัทฯเป็นหลัก เพื่อหาคู่ค้าของคู่ค้าที่มีความสำคัญ (Critical non-Tier 1) ผลการวิเคราะห์สามารถสรุปได้ดังนี้
ประเภทของคู่ค้า | จำนวน (ราย) | ร้อยละ |
---|---|---|
คู่ค้าทั้งหมด | 908 | 100 |
คู่ค้ารายสำคัญ (Critical Supplier) | 39 | 4.30 |
จากนั้นบริษัทฯ ได้ทำการประเมินความเสี่ยงทางด้านความยั่งยืนของคู่ค้า ทั้งคู่ค้ารายสำคัญ (Critical Tier 1) รวมถึงคู่ค้าของคู่ค้าที่มีความสำคัญ (Critical non Tier 1) โดยผ่านกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อค้นหาและประเมินความเสี่ยงทางด้านความยั่งยืนของคู่ค้าที่มีแนวโนัมจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการของทางด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ จากผลการดำเนินงานค้นหาและประเมินความเสี่ยง “ไม่พบคู่ค้าที่มีความเสี่ยงสูง”
ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงวางแผนให้ มีการดำเนินการตรวจเยี่ยมสถานประกอบการ (On-site ESG Audit) คู่ค้าที่รายสำคัญ ทั้งหมด 23 ราย และมีแผนจะดำเนินการตรวจเยี่ยมฯ ให้ครบทุกรายในปี 2567
แผนงาน (KPI) | ผลการดำเนินงาน | เป้าหมาย | |
---|---|---|---|
ปี 2565 | ปี 2566 | ||
คู่ค้ารายใหม่รับทราบแนวทางจรรยาบรรณและแนวทางการปฏิบัติอย่างยั่งยืนของคู่ค้า | 100% | 100% | 100% ทุกปี |
ไม่มีการบาดเจ็บถึงขั้นเสียชีวิต ในระหว่างการปฏิบัติงานในพื้นที่ | 0 | 0 | 0 ทุกปี |
ไม่มีข้อร้องเรียนด้านสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับ คู่ค้า | 0 | 0 | 0 ทุกปี |
การตรวจประเมิน On-site ESG Audit ร้อยละ 100 ของคู่ค้ากลุ่ม Critical Tier 1 | 0% | 50 % | 100% ในปี 2567 |
แนวปฏิบัติในการกำหนดระยะเวลาที่จะชำระเงินให้แก่คู่ค้า
ปัจจุบัน บริษัทฯ ยังไม่มีการกำหนดนโยบายในประเด็นเรื่อง ระยะเวลาชำระเงินให้แก่คู่ค้า อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้มีการระบุระยะเวลาการชำระเงิน ลงในเอกสาร PO ตามมาตรฐานที่ 30 วันหลังจากส่งมอบสินค้าหรือบริการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเจรจาระหว่างบริษัทฯ และคู่ค้า ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มขึ้น หรือลดลงตามความเหมาะสม
ระยะเวลาการชำระเงิน | จำนวน (ราย) | ร้อยละ |
---|---|---|
เงินสด | 14 ราย | 1.54% |
เครดิต 7 วัน | 14 ราย | 1.54% |
เครดิต 15 วัน | 99 ราย | 10.90% |
เครดิต 30 วัน | 759 ราย | 83.60% |
เครดิต 45 วัน | 4 ราย | 0.44% |
เครดิต 60 วัน | 18 ราย | 2.00% |
โครงการ GOOD FOR ALL
เสริมสร้างสุขภาพและสุขภาวะที่ดีแก่ผู้รับเหมาและแรงงานในพื้นที่ก่อสร้าง
บริษัทฯ ร่วมมือกับมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ดำเนินโครงการฯ เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาพร้อมให้ความช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ โดยเฉพาะแรงงานหญิงข้ามชาติและครอบครัวที่เข้ามาทำงานและพักอาศัยอยู่ในภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ต่อยอดจากโครงการการเข้าถึงแรงงานหญิงข้ามชาติและครอบครัวในบ้านพักชั่วคราวแรงงานก่อสร้าง (REACH) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO)
ทั้งนี้ โครงการ “GOOD FOR ALL” มีระยะเวลาในการดำเนินโครงการ 3 เดือน (ก.ค.-ก.ย.2566) โดยจะมีผู้เข้าร่วมโครงการ แบ่งเป็นกลุ่มบริษัทผู้รับเหมา 40 คน และได้คัดสรรกลุ่มแรงงานในประเทศ รวมทั้งแรงงานข้ามชาติ รวมกว่า 600 คน ที่ปฏิบัติงานในสถานที่ก่อสร้างของบริษัท บริทาเนีย ทั้ง 23 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ รวม 15 ครั้ง
โดยจะมุ่งเน้นสิทธิ 2 ด้าน ได้แก่ เสริมสร้างความเข้าใจเรื่องบทบาทและหน้าที่ที่พึงกระทำ สิทธิพื้นฐานและประโยชน์ที่แรงงานพึงได้รับ ตลอดจนการดำเนินการจัดหาและจ้างงานอย่างเป็นธรรมแก่ผู้รับเหมาและแรงงานข้ามชาติ และ การเสริมสร้างสุขภาวะที่ดี ทั้งการเข้าถึงการตรวจสุขภาพ การสร้างสุขอนามัยที่ดี การจัดการสิ่งแวดล้อม แก่แรงงานข้ามชาติให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น